หน้าแรก

บทกลอนพระธรรทูต



พระ
  ประกาศ เผยธรรม คำพระพุทธ
ธรรม  พิสุทธิ์ ส่องสว่าง ทางผ่องใส
ทูต  ธรรม ทองส่องหล้า นภาลัย
สาย  เชื่อมใจ แจ่มจิต นิจนิรันดร์

ต่าง  มุ่งสอน ธรรมะ พระพุทธเจ้า
ประ  นบเกล้า เทิดทูน แสนสุขสันต์
เทศ  นานา พาสดใส วิไลวัลย์
รุ่นที่ ๑๒  สร้างสรร  ฝันร่มเย็น
******************************
      จะระถะ  ภิกขะเว  เทเสถะ
องค์พุทธะ  ทรงพร่ำ  ฝากคำสอน
แด่ภิกษุ  ทูตธรรม  ผู้จำจร
ให้สั่งสอน  หมู่ประชา  ด้วยอาลัย

จงสั่งสอน  พรหมจรรย์  อันบริสุทธิ์
เปรียบประดุจ  แสงทอง  อันผ่องใส
ให้ชาวโลก  รู้แจ้ง  แสงอำไพ
จงตั้งใจ  ประกาศ  พระสัทธรรม



    
หนังสือรุ่นสำคัญอย่างไร?"

หนังสือรุ่น อุ่นใจ เมื่อได้เห็น
เพราะมันเป็น หนังสือ สื่อความหมาย
อนุสรณ์ หนังสือ สื่อรวมใจ
วันเวลา ผ่านไป ได้เปิดดู


พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่น 12
พระ     เผยแผ่ สัจธรรม คำพระพุทธธรรม-  พิสุทธิ์ พุทธองค์  ทรง                     เลื่อมใส
ทูต     แห่งธรรม ชี้ทาง สว่างใน
สาย-   สัมพันธ์  เชื่อมใจ เวไนยชน

ต่าง-  เชื่อชาติ  ต่างชั้น ต่างวรรณะ
ประ-  พฤติธรรม ลดละ  อกุศล
เทศ-  นา  ประเสริฐล้ำ  ธรรมรงค์
รุ่น12  องค์   วิลาส  ปราชญ์ชื่นชม

...................................................
         

     พระ     คือผู้เลิศล้ำด้วยปัญญา
ธรรมะ  คือวิชาปกป้องจิต
ทูต      คือ ผู้ส่องสว่างทางชีวิต
สาย    สัมพันธ์ดุจญาติมิตรพี่น้องกัน     ต่าง    ถิ่นฐานเรือนนอนคอนเคยพัก
ประเทศ  รักทั้งหลายเฝ้าใฝ่ฝัน
รุ่น     เบิกบานสานธรรมเป็นสำคัญ
ที่สิบสอง    ดุจพระจันทร์ ตะวันเรืองชนลือเลื่อง  ก้องหล้า  ทั่วฟ้าดิน



"พญาอินทรี""

(
พระธรรมทูต เปรียบได้กับพญาอินทรี อย่างไร?)

เจ้าพญา ผู้พิทักษ์ เหล่าปักษี
แม่อินทรีย์ จอมวิหค ผกเวหา
ผู้เป็นใหญ่ ในขุนเขา เฝ้าพนา
ครองนภา อากาศกว้าง อย่างทระนง
"""
มีคุณธรรม อันยิ่งใหญ่ ให้เล่าขาน
พญานก สืบสาน อย่างได้ผล
คือวิธี เลี้ยงลูกน้อย ให้คอยยล
ขอทุกคน ติดตามกลอน ตอนต่อไป
"""
พญานก จะขยัน หมั่นหาเหยื่อ
มาแผ่เผื่อ ลูกนก จิตสดใส
เฝ้าเป็นห่วง ลูกน้อย ผู้กลอยใจ
คอยห่วงใย ถนอม กล่อมลูกยา
"""
สายตาสอด ส่องภัย ให้แก่ลูก
จิตฝังผูก กลัวลูกหล่น ลงเวหา
หมั่นนอนกก ให้อบอุ่น แก่ลูกยา
วันเวลา ผ่านไป จนใหญ่โต
"""
ลูกทุกตัว เติบใหญ่ อย่างได้ผล
ต่างซุกซน บนรังรัก อยากบินโผ
มองเห็นแม่ โผผิน บินโฉบโชว์
ต่างอยากโผ บินข้าม ตามมารดา
"""
พญานก บินว่อน เพื่อสอนลูก
ให้รีบลุก ปลุกใจ ให้ถลา
สอนให้บิน กระโจน ร่อนโผนมา
ถึงเวลา ลูกรัก จักโบยบิน
"""
ลูกพญา อินทรีย์หนอ พอได้ฟัง
ต่างก็ย่าง เตาะแตะมา ใกล้ผาหิน
บางตัวกล้า เดินต้วมเตี้ยม เตรียมจะบิน
บางตัวสิ้น แรงหด ตกจากรัง
"""
ตัวที่แข็ง แรงมี ปรี่ขึ้นฟ้า
ตัวที่แรง อ่อนหล้า คราหมดหวัง
ต่างตกเหว ชีวิน ก็ภินท์พัง
ฝากเป็นเรื่อง ความหลัง ที่ยังงง
"""
สุดวิสัย ที่แม่อินทรีย์ จะปรี่รับ
สุดวิสัย ที่จะคาบ ตามประสงค์
จึงปล่อยให้ ลูกตัวนิด มาปลิดปลง
เพราะประสงค์ ลูกที่แข็ง แรงเท่านั้น
"""
เปรียบประดุจ ชีวิตเรา เฝ้าฝึกฝน
สู้อดทน หนักเบา เฝ้าขยัน
จึงจะรอด ปลอดภัย ไร้โทษทัณฑ์
ส่วนผู้ที่ ประมาทนั้น พลันมลาย
""""
เหมือนลูกนก อินทรีย์ ที่สาธก
นำมาถก ชี้แจง แถลงไข
เป็นตำนาน พญาอินทรีย์ ระบือไกล
เลี้ยงลูกน้อย เติบใหญ่ ปล่อยให้ตาย
"""
เลือกลูกน้อย ที่สดใส ให้คงอยู่
เพื่อต่อสู้ อุปสรรค อย่างสมหมาย
ปล่อยลูกน้อย กำลังเพลา ไม่เอาใจ
ให้ล่วงหล่น ลงเหวใหญ่ ไพรพนา
""""
พระธรรมทูต ก็เช่นกัน ผ่านมาได้
ที่ล้วนแล้ว เอาใจใส่ ใฝ่ศึกษา
จึงสอบผ่าน ภาคจิตะ ภาวนา
สู่ภาควิชาการกัน อย่างมั่นคง
""""
ส่วนผู้ที่ อ่อนแอ ไม่แผ่เผื่อ
ไม่เอื้อเฟื้อ คำสั่ง อย่างเหมาะสม
จึงถึงการ ถูกทิ้งไว้ ในกลางดง
เลยหัวลง เอวัง กลับรังเดิม

.....................................................

ขอบคุณแคมป์สน



ขอขอบคุณโยมแคมป์สน       ที่ทุกคนมีน้ำใจ
ญาติโยมทั้งหญิงชาย            ได้ถวายการดูแล
อาหารทุกอย่างสรรพ              คณานับโยมเผื่อแผ่
น้ำปานะโยมก็แฟร์                  มาดูแลอยู่ทุกวัน
 ธรรมทูตทุกรูปปลื้ม                เมื่อได้ดื่มและได้ฉัน
 ตั้งใจอบรมกัน                        พลันให้จบครบตามกาล
ตอนนี้อภิรมย์                            การอบรมอวสาน
นวกรรมก็งดงาม                     กรรมฐานก็สมบูรณ์
จะเสร็จสำเร็จได้                     แคมป์สนให้การอุดหนุน
ธรรมทูตขอขอบคุณ                 ไออุ่นนี้จะจดจำ
อวยพรโยมแคมป์สน                ทุกทุกคนอย่าระกำ
ปราศทุกข์สุขหนุนนำ                 พร้อมพระธรรมจงรักษา
แคล้วคลาดสรรพภัย                ความจัญไรอย่ามีมา
 เป็นกำลังหนุนนำพา                 ศาสนารุ่งเรืองเทอญ..


 แต่งในคราวไปอบรมพระธรรมทูต ปี ๔๙ รุ่นที่ ๑๒ วันอบรมเสร็จ



ลาก่อนแคมป์สน "


วันที่ยี่สิบ เมษา ขอลาแล้ว
เหลือเพียงแนว ความทรงจำ ไว้พร่ำหา
สองเดือนจบ ครบวัน อยู่กันมา
พอถึงครา จากไป ใจอาวรณ์

ลาญาติโยม ที่เฝ้า เอาใจใส่
ลาอาจารย์ ที่ห่วงใย ให้คำสอน
พระธรรมทูต ไปละหนา ขอลาจร
ลาเสื่อหมอน บ่อนรัก ที่พักใจ

ลาที่ฉัน หอคัมภีร์ ที่โอ่อ่า
ลาศาลา ทำวัตรเสียง สำเนียงใส
ลาจั๊กกระจั่น ที่ร้อง ก้องพงไพร
ลาสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ ในพนา

ลาวิญญาณ ป่าสน คนเล่าขาน
ลาวันวาน ที่ให้ อาลัยหา
ลาสายฝน ที่พรมพร่ำ ฉ่ำอุรา
ลาฟากฟ้า ไอดิน ถิ่นสมบูรณ์

ลาต้นสน ที่เรียงราย สุดปลายฟ้า
ลาเทวา สิ่งศักดิ์สัทธิ์ สถิตศูนย์
ลาทรัพยากรณ์ บ่อนอุดม และสมบูรณ์
ขอลาศูนย์ พัฒนาศาสน์ ขอจากลา

ลารูปเหมือน อาจารย์พร รัตนสุวรรณ
ผู้สร้างสรร สร้างปราชญ์ พระศาสนา
ผู้บุกเบิก แคมป์สน ตลอดมา
ลาพฤกษา ลดาวัลย์ จำจากจร

ลากุฏิ นวกรรม ร่วมกันสร้าง
ลาเส้นทาง สร้างพระ อนุสรณ์
ก่อนจากไป หวนให้ ใจอาวรณ์
ทอนหายใจ เหนื่อยอ่อน ก่อนจากกัน

ถ้าไปแล้ว ตั้งใจ ไม่ไปลับ
แล้วจะกลับ ตามสัญญา มาสร้างสรร
พระธรรมทูต ทุกรูป อย่าลืมกัน
ขอจงหมั่น มาแวะวน แคมป์สนเอย.....


"อาลัยแคมป์สน"

แคมป์นจ๋า ปวงข้า ขอลาก่อน
เพราะต้องจร ทำให้สุด จุดมุ่งหมาย
อยู่สองเดือน เสมือนมิตร ใกล้ชิดกาย
จะอาลัย แคมป์สนอยู่ มิรู้เลือน

แคมป์สนให้ อะไร หลายหลายอย่าง
ให้เส้นทาง อันสดใส ใครจะเหมือน
ให้อาหาร การขบฉัน ให้คำเตือน
ให้อบอุ่น เสมือน เพื่อนรู้ใจ

แคมป์สนให้ เสื่อหมอน บ่อนที่พัก
ให้ความรัก ภักดี ที่สดใส
ให้อากาศ ให้น้ำ เย็นฉ่ำใจ
ให้วินัย ความรู้ มนูชน

ให้โยมดี ที่คอยเฝ้า เอาใจใส่
ให้ความชื้น แก่จิตใจ ให้สายฝน
ให้เจ้าหน้าที่ ที่ขยัน กันทุกคน
ให้สายชล ที่สวยเด่น เป็นลำธาร

ให้ระบบ นิเวศน์ไพร สมใจคิด
ให้จิ้งหรีด ร้องเรียง เสียงประสาน
ให้จั๊กกระจั่น ปั่นเสียงร้อง ก้องกังวาน
ให้เขียดปาด ร้องขับขาน กังวานไพร

ให้วิหค นกหวน ครวญเพลงขับ
สุดจะนับ สรรพสำเนียง เสียงขานไข
ให้เถาวัลย์ พันธุ์เฟิร์น ดูเพลินใจ
ให้แมกไม้ เบญจะ นานาพันธุ์

ให้ต้นสน เรียงราย สุดปลายฟ้า
ดูสง่า เหมือนเทพ มาเสกสรร
ให้ดอกไม้ ให้ต้นหญ้า ลดาวัลย์
ให้ฤดู ที่พลิกผัน สุดบรรยาย

แคมป์สนจ๋า พระธรรมทูต ขอลาแล้ว
เหลือเพียงแนว ภาพเก่า เล่าความหมาย
จะจดจำ แคมป์สน จนวันตาย
ชีพไม่วาย คิดถึงอยู่ มิรู้ลืม

แต่งในคราวไปอบรมพระธรรมทูต ปี ๔๙ รุ่นที่ ๑๒ วันอบรมเสร็จ


"อบรมภาควิชาการ"

เร้ากี่เร่งเล่าเรียน............. กี่พากกี่เพียร
กี่หยดกี่หมึกปากกา......... กี่เล่นกี่ล่ำตำรา กี่วันเวลา
กี่ร้อนกี่หนาวกี่ทน............. กี่ค่ำกี่ดึกฝึกฝน
อาจารย์กี่คน..................... กี่เหน็ดกี่เหนื่อยรายงาน
กี่พร่ำคำสอนอาจารย์........ กี่สบพบพาน
กี่ชอบกี่ชังคำชม .................กี่หนึ่งกี่เดียวเกลียวกลม
กี่คำกี่คม ............................จะยากอย่างไรฝึกฝน
เพื่อปัญญาชน.................... แต่งแต้มสีสันชีวิต
อยากเป็นเฉกเช่นบัณฑิต .....จึงยอมอุทิศ
ละสุขทุกข์สู้ฝ่าฟัน.............. วันจบมาเยือนเหมือนฝัน
ดุจหนึ่งพระจันทร์ ................ปราศเมฆมืดมิดปิดบัง
ยิ้มรับรื่นรมย์สมหวัง .............ขอเป็นเช่นดัง
                  ดาวน้อยส่องแสงวับวาว...

แต่งในคราวไปอบรมพระธรรมทูต ปี ๔๙ รุ่นที่ ๑๒ วันอบรมเสร็จ



"อบรมภาคจิตภาวนา"

ภาคสาธาร- ณูปการ ผ่านเสร็จสิ้น 
เข้าสู่ถิ่น กรรมฐาน ด่านสุดหิน
หอบเสื่อหมอน นอนในกลด ซบบนดิน
กำหนดสิ้น จิตรู้ อยู่พงไพร

อยู่ในกลด พักแรม กลางแคมป์สน
อยู่ปะปน แมลง/มด จิตสดใส
จั๊กกระจั่น จิ้งหรีด หวีดเรไร
สัตว์น้อยใหญ่ ร้องเซ็งแซ่ แผ่ลำคอ

คราจะยืน ต้องกำหนด ถึงมดจะไต่
คราจะไป ต้องใจจด กำหนดหนอ
คราจะนั่ง กำหนดจิต สติคลอ
พองยุบหนอ เป็นเพื่อน ไม่เชือนแช

คราจะนอน ต้องเล็ง เพ่งหน้าท้อง
ให้เห็นพอง เห็นยุบยิบ จิตแน่วแน่
มีสติ ทุกคืนวัน ไม่ผันแปร
สาตัจจะฯ เผื่อแผ่ กระแสจินต์

อินทรีย- สังวรศีล คือถิ่นพัก
มุ่งตระหนัก ปาริสุทธิ์ วิมุติถวิล
ปาฏิโมกข์ สังวรระวัง ไม่พังภินท์
จวบจนสิ้น ปิดฉาก ภาคจิตภาวนา

แต่งในคราวไปอบรมพระธรรมทูต ปี ๔๙ รุ่นที่ ๑๒ วันอบรมเสร็จ



 "อบรมภาคก่อสร้าง"

สาธาร- ณูปการ งานสร้างฝัน
มุ่งฝ่าฟัน งานก่อ ทอกุศล
นวกรรม สืบสาน งานสร้างคน
ธรรมทูต ฝึกฝน จนชำนาญ

ขุดหลุมเสา เอาขันติ อิทธิบาท
เหงื่อไคลราด อาบกาย ใจประสาน
ผลัดกันขุด ผลัดกันช่วย ไม่ป่วยการ
คืนวันผ่าน ประสานรัก สามัคคี

ยกโครงเสา เอาปูนชง เทลงทับ
ช่วยกันรับ เทคาน งานพิถีฯ
บ้างยกท่อ ก่ออิฐ มิตรไมตรี
เผยวจี นิยธรรม นำสุขใจ

มุ่งตัดเหล็ก ยกเหล็ก เช็คละเอียด
ถึงจะเครียด ยังยิ้มร่า หน้าสดใส
ผสมปูน ฉาบปูน ทุ่มแรงใจ
บ้างติดไฟ สวนหย่อม พร้อมใช้งาน

ตีไม้แบบ แนบบรรทัด วัดลูกดิ่ง
ไม่อยู่นิ่ง รวมกาย ใจสมาน
แบ่งเป็นฝ่าย ประสาน การทำงาน
เดินกันพล่าน เพราะงานเร่ง ตัวเกร็งเกลียว

บางรูปเจ็บ ตอนทำงาน สื่อกันพลาด
บางรูปคลาด ถลำ ทำหวาดเสียว
บางรูปตอก ตะปู ทู่เป็นเกลียว
ได้เพียวเพียว ประสบการณ์ กันทุกคน


วันที่ยี่สิบ วันสุดท้าย ก็มาถึง
เป็นวันซึ่ง พวกพ้อง ต้องเจอฝน
ทั้งหนาวเหน็บ เก็บภาระ สาละวน
ทั้งเปียกฝน ปนงานค้าง ต่างวุ่นวาย


มุงหลังคา ติดฝ้า พร้อมทาสี
ต่างเร็วรี่ กันสุดสุด รุดขวนขวาย
ทั้งปูพื้น ฉาบปูน กันวุ่นวาย
ติดประตู บานเกร็ดใส ให้เป็นเงา


ส่วนงานป้าย แกะไม้ เป็นอักษร
ทั้งใช้ค้อน เหล็กแคะ แกะเฉลา
แล้วทาสี หลายชั้น เป็นมันเงา
ช่วยกันยก ขึ้นสู่เสา สวยเข้าที


เลขสิบสอง เป็นรูปพระ นั่งขัดสมาธิ์
ดูองอาจ มาดสงบ พบสุขี
รูปใบโพธิ์ ขนาดหลัง นั่งเอกี
พร้อมลงสี น้ำเงิน ดูเพลินใจ


ยี่สิบเอ็ด ตีสาม งานเสร็จสิ้น
ทุกคนยิ้ม เข่าทรุด ถึงจุดหมาย
กว่าจะเสร็จ ทุกอย่างหนอ ก็เกือบตาย
ได้ถวาย เจ้าคุณราชฯ ปราชญ์ของเรา


เหงื่อไหลหยด รดพื้นดิน ถิ่นแคมป์สน
บางครั้งฝน บางครั้งแดด ก็แผดเผา
บางครั้งท้อ พอประทัง นั่งซบเซา
บางครั้งเหงา นอนคอพับ หลับไม่ลง


กุฏิสงฆ์ ทรงไทย สำเร็จสิ้น
สมถวิล รุ่นสิบสอง ต้องประสงค์
มีโลโก้ ทองอร่าม ตามจำนงค์
จุดสร้างบรรจง ดำรงไว้ ใกล้วารี

ตั้งสวยหรู ดูตระหง่านกลางแคมป์สน
ให้ทุกคน ได้เห็น เป็นศักดิ์ศรี
ธรรมทูต รุ่นสิบสอง ส่องความดี
เป็นสาราณีย์ ธรรมทูต ชุดของเรา


(แต่งในคราวไปอบรมพระธรรมทูต ปี ๔๙ รุ่นที่ ๑๒ วันอบรมเสร็จ)


แด่เพื่อนพระธรรมทูต"


ร่วมกันก่อ ถ่อพาย สู่ปลายฝัน
ร่วมฝ่าฟัน ร่วมเผื่อแผ่ ร่วมแก้ไข
ถึงเวลา ที่ต้องร้าง ห่างกันไกล
แสนอาลัย เพื่อนธรรมทูต สุดบรรยาย

จงจดจำ ความดี ที่ร่วมสร้าง
จงเดินทาง ให้ลุ ถึงจุดหมาย
จงทำฝัน ที่เลอเลิศ เฉิดไฉไล
ฝากผลงาน ทิ้งไว้ ในโลกา

อย่าลืมเลือน เพื่อนเพื่อนเรา เฝ้าอบอุ่น
เพื่อนร่วมรุ่น ของเรา เฝ้าห่วงหา
อย่าลืมคำ ปฏิญาณ ที่ผ่านมา
รุ่นสิบสอง ขอกล่าวลา คราจากกัน

ต่อไปนี้ ไม่มี พวกเราแล้ว
เหลือเพียงแนว ความดี ที่ร่วมฝัน
ขอจงรัก ภักดี มีให้กัน
และจงหมั่น มาแวะวน แคมป์สนเอย



กุฏิอนุสรณ์รุ่น"


ยี่สิบวัน พลันเสร็จ เผด็จสาน
นวกรรม สถาน งานสุขี
ชื่อกุฏิ พระราช รัตนโมลี
ผู้เป็นศรี มหาจุฬาฯ วิทยาลัย



สร้าง สำเร็จ สวยเฉลา ดูเข้าชุด
พระธรรมทูต รุ่นสิบสอง จิตผ่องใส
ต่างสาธุ มุทิตา พาชื่นใจ
น้อมถวาย กุฏิสงฆ์ ผู้ทรงธรรม



นวกรร- มานุสรณ์ บ่อนพักจิต
ของเหล่ามิตร เพื่อนธรรมทูต บุตรพระสัมม์
รุ่นสิบสอง ของเรา เฝ้าหนุนนำ
ประกาศธรรม ของจอมปราชญ์ พระศาสดา



อยู่ต่างวัด ต่างประเทศ ต่างเขตขัณฑ์
คืนและวัน ผ่านไป ได้โหยหา
นวกรรม ที่แผ้วถาง สร้างกันมา
ประทับตรา แทนร่าง ที่ห่างกัน



กลอนประจำรุ่น พระธรรมทูต
สายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๒".


พระ- ประกาศ สัจจธรรม คำพระพุทธ
ธรรม- พิสุทธิ์ พุทธองค์ ทรงเลื่อมใส
ทูต- แห่งธรรม ชีทาง สว่างไกล
สาย- สัมพันธ์ เชื่อใจ เวไนยชน
ต่างประเทศ- ต่างชั้น ต่างวรรณะ
รุ่น- นี้พระ แปดสิบ ไม่สับสน
สิบ- ปากว่า ไม่เท่า มาเห็นด้วยตน
สอง- เฉลิมชน ครองราชย์ หกสิบปี



โลโก้รุ่น ๑๒ "
เลขสิบสอง เป็นรูปพระ นั่งขัดสมาธิ์
ดูองอาจ มาดสงบ พบสุขี
รูปใบโพธิ์ ขนาดหลัง นั่งเอกี
พร้อมลงสี น้ำเงิน ดูเพลินใจ

...............................................................

ประพันธ์โดย..พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร





No comments:

Post a Comment